
ภาพประทับใจจากงาน “วันชื่นคืนสุข” รื่นเริงบำรุงสุข#2
ขอนำภาพประทับใจจากงาน “วันชื่นคืนสุข” รื่นเริงบำรุงสุข#2 เมื่อวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมใบหยกสกาย มาฝากเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ
ประเทศต่อมาคือ คิริบาส ที่นี่เป็นหมู่เกาะตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลาง เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ เกาะแห่งนี้กำลังจมน้ำทะเลภายใน 30 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน เขาจึงอยากหาคำตอบว่า คนที่นี่เขาเตรียมตัวและเตรียมใจรับมือกับข่าวร้ายอย่างไรบ้าง
ที่นี่เป็นดินแดนที่สงบมาก บ้านพักไม่มีประตูหรือหน้าต่างเพราะปราศจากอาชญากร โดยช่วงที่เขาไปตรงกับวันชาติพอดี ซึ่งปกติหน่วยงานทุกแห่งจะหยุดทำการเป็นเวลา 7 วัน และรัฐบาลยังจัดกิจกรรมสนุกๆ ให้ประชาชนได้ร่วม เช่นพาเด็กๆ มาสวนสนาม รวมถึงจับรางวัลใหญ่ เป็นรถยนต์ 4 ประตูอีกด้วย
โดยวันที่เขาร่วมงานจับสลาก เขานั่งติดกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคนนี้เองที่เป็นคนกระจายข่าวว่า คิริบาสมีแขกจากต่างแดนเดินทางมาเยี่ยม
“ผู้หญิงคนนั้นก็ได้รับเชิญให้ไปจับรางวัลรองลงมาคือตู้เย็น แล้วเธอยังไปกระซิบพิธีกรว่ามีแขกมาจากเมืองไทยคนหนึ่ง ชื่อ Mr.Oak From Thailand ยูน่าจะเชิญเขามาจับรางวัลใหญ่รถยนต์ แล้วก็มีเสียงประกาศเชิญผมไปจับรางวัลใหญ่ ซึ่งก่อนจับก็ต้องมีการพูดคุยว่ายูมาทำอะไร เย็นวันนั้นผมกลับไปที่บ้าน คนทั้งหมู่บ้านบอกว่าดังใหญ่แล้วนะ”
จากนั้นเขาก็ได้รับเกียรติให้ไปร่วมเปิดพิธีสำคัญของประเทศอีกหลายงาน อาทิประกวดยกน้ำหนักหญิง เปิดห้างสรรพสินค้าแห่งแรก รวมถึงได้รับเชิญให้ไปร่วมรับประทานอาหารกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถึงศาลาว่าการเมือง
“ในวันสุดท้าย ผมได้รับเชิญให้ไปนั่งเรือใบเป็นเรือเร็ว ซึ่งคนขับ 2 คนเป็นอดีตแชมป์เรือใบ โดยคนหนึ่งเป็นพี่ชายของประธานาธิบดีปัจจุบัน แล้วเขาก็ชี้ให้ดูเกาะๆ หนึ่ง ซึ่งเดิมเป็นเกาะใหญ่เต็มไปด้วยต้นไม้ มีแม้กระทั่งน้ำจืดบนเกาะ แต่ตอนนี้เหลือแค่สันทรายเท่านั้น เพราะภาวะโลกร้อน ผมก็ถามเขาว่าอีก 20 ปีนี้คิริบาสจะจมหายไป แกบอกว่าทราบ ผมเลยถามต่อว่าจะจัดการปัญหาอย่างไร แกเงียบไปพักหนึ่ง แล้วตอบว่าพระเจ้าจะประทานคำตอบให้เรา จงใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีคุณค่าและมีความสุข”
โอ๊คใช้ชีวิตอยู่บนเกาะนี้ 12 วันเต็มๆ พร้อมกับได้เรียนรู้สัจธรรมอย่างหนึ่งของชีวิตว่า คนเราไม่ควรใช้ชีวิตอยู่บนความวิตก เพราะบางครั้งความวิตกก็ไปบดบังปัญญา หากคนเราตั้งสติและอยู่กับปัจจุบันก็อาจค้นหาทางออกที่ต้องการได้เช่นกัน
สำหรับประเทศอีกแห่งที่เขาไปเยือน คือโมซัมบิค เดิมเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสอยู่ 500 ปี พอได้เอกราชก็รบกันเองอีก 40 ปี มีคนตายนับแสนคน ประชากรมีรายได้ราว 16,000 บาทต่อคนต่อปี ถือว่าฐานะยากจนมาก และมีอาชญากรรมเยอะมาก
โอ๊คเดินทางไปยังเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่นี่แบ่งพื้นที่เป็นสองส่วน โซนแรกเป็นเขตเมืองสถาปัตยกรรมเป็นแบบยุโรป เดิมที่เป็นอยู่ของชนชั้นปกครอง และชนผิวขาว ส่วนที่เหลือเป็นสลัมและที่อยู่ของคนผิวสี ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศมาก่อน ซึ่งทุกวันจะมีเด็กๆ จากโซนสลัมวิ่งมาของจากโซนเมือง
“ตอนแรกผมหนีน้องๆ ตลอดเวลา กระทั่งอีก 2-3 วัน ผมออกไปหน้าโรงแรมตามปกติ แล้วก็ไปเจอน้องๆ 5 คน คราวนี้ผมเลยคิดใหม่ให้น้องๆ พาผมไปเที่ยวบนเกาะ จะไปไหนก็ได้ โดยมีกฎว่า น้องต้องไปกับพี่ 5 คนเท่านั้น อย่าไปเรียกคนมาอีก แล้วก็ต้องพูดด้วยภาษาโปรตุเกสเป็นหลัก เพราะผมกำลังฝึกภาษานี้ และสุดท้ายคือเที่ยวจบ พี่จะพาน้องไปซื้ออะไรก็ได้ที่ตลาด
“สิ่งที่ผมสังเกตเห็นคือ นัยน์ตาเขามีชีวิตชีวามาก และน้องก็พาผมเที่ยวอย่างสนุกสนาน แล้วผมก็ทึ่งในความรู้ที่เขามีต่อบ้านเกิดเมืองนอน เขาพาอนุสาวรีย์ แล้วก็อธิบายละเอียดมาก พาไปดูโบสถ์คริสต์แห่งแรกของแอฟริกา และสุดท้ายคือไปเที่ยวโรงพยาบาลของเกาะซึ่งเป็นโบราณสถาน จากนั้นก็ผมพาน้องๆ ไปซื้อของที่ตลาด โดยประโยคสุดท้ายที่ผมบอกน้องๆ คือ อย่าเป็นขอทาน พยายามสร้างคุณค่าให้ตัวเองหรือหาอะไรทำก็ได้
“ในวันรุ่งขึ้น หนึ่งในมัคคุเทศก์มาดักรอผมหน้าโรงแรม พร้อมรูปทั้งหมด 8 รูป เป็นรูปสถานที่ท่องเที่ยวที่พาผมไปทั้งหมด เขายอมอดตาหลับขับตานอนวาดรูปทั้งหมด เพื่อนำมาขายผม แล้วผมก็ซื้อมา สุดท้ายผมพาเด็กคนไปหาเจ้าของโรงแรมแล้วก็บอกว่า ขอฝากเด็กคนนี้ก็โครงการมัคคุเทศก์ไว้ด้วย ซึ่งผมก็หวังว่าโครงการนี้จะยังอยู่ในดินแดนนี้ต่อไป”
ตลอดหลายปีของการเดินทาง โอ๊คเห็นชีวิตของผู้คนที่หลากหลาย ทุกคนมีความเชืื่อ ความคิด และวัฒนธรรมประเพณีแตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีเหมือนกัน คือทุกคนต่างพยายามหาเส้นทางความสุขตามแบบฉบับของตัวเอง และเขาเองก็รู้สึกว่านี่เป็นหนึ่งในหน้าที่ของที่จะต้องแบ่งปันเรื่องราวความสุขนี้ไปสู่ผู้อื่น
โอ๊คเขียนเรื่องราวทั้งหมดนี้ผ่าน Facebook รวมถึงส่งต่อไปยัง Magazine Online หลายแห่ง ทั้ง The Cloud, Happening, a day รวมแล้วกว่า 60 เรื่อง เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสได้เข้าถึงและสัมผัสความสุข แม้จะเป็นเพียงตัวอักษรและรูปภาพก็ตาม
5 สิ่งที่เรียนรู้จากโอ๊ค-โลจน์ นันทิวัชรินทร์ ใน ‘สารบำรุงสุข’
1. จงใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและดีที่สุด
2. คนเราควรมีความจริงใจให้กัน แล้วความสุขก็จะตามมาเอง
3. อย่าปล่อยตัวเองให้ตกอยู่ในความวิตก เพราะสุดท้ายจะทำให้จมอยู่กับปัญหา
4. ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนมี 2 ด้าน ลองพลิกมุมมองให้หลากหลาย บางทีคุณอาจเจอเรื่องดีๆ ก็เป็นได้
5. อย่าลืมส่งต่อความสุขของคุณสู่ผู้อื่น เพราะคนที่จะสุขที่สุดก็คือตัวคุณนั่นเอง
ขอนำภาพประทับใจจากงาน “วันชื่นคืนสุข” รื่นเริงบำรุงสุข#2 เมื่อวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมใบหยกสกาย มาฝากเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ
คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ จัดพิธีทำบุญ รำลึกถึงศาสตราจารย์ บำรุงสุข สีหอำไพ ผู้ก่อตั้งคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พวกเราตัวแทนจากมูลนิธิฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อแสดงความรำลึกถึงอาจารย์ที่เคารพรักของเราด้วยค่ะ
มูลนิธินิเทศศาสตร์ ศาสตราจารย์บำรุงสุข สีหอำไพ ขอพาทุกท่านย้อนกลับไป เพื่อสัมผัสเรื่องราวของอาจารย์ผู้เสียสละ ผ่านการ์ตูน 4 ตอนที่รังสรรค์โดยฝีมือของพี่น้องชาวนิเทศ แล้วคุณจะทราบว่า ชายผู้นี้สำคัญอย่างไรกับสังคมไทย
มูลนิธินิเทศศาสตร์ ศาสตราจารย์บำรุงสุข สีหอำไพ
เลขที่ 254 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330